เป็นครั้งที่สามแล้วที่ผมได้มีโอกาสไปพักที่เทวาศรม รีสอร์ทห้าดาวริมทะเลเขาหลักจังหวัดพังงา ความพิเศษรอบนี้คือจะได้มีโอกาสพัก 2 ห้อง 2 สไตล์ และได้มีโอกาสสัมผัสประสบการณ์ new normal ที่ทางรีสอร์ทได้จัดเตรียมเพื่อความปลอดภัยของลูกค้าในช่วงควบคุมการะบาดของโรค Covid-19 เนื่องจากเป็นการมาเยือนครั้งที่สาม ระหว่างเข้าพักจึงหาโอกาสทำกิจกรรมใหม่ๆ ที่ยังไม่ได้ลองจากการเข้าพักครั้งก่อนๆ รวมถึงเก็บภาพเพิ่มเติมโดยเฉพาะภาพมุมสูงเพื่อให้เห็นบรรยากาศโดยรวมของรีสอร์ท … รีวิวนี้จึงอยากเล่าความเป็น “เทวาศรม” ในแต่ละด้านในมุมมองของ “นายมด” ให้เพื่อนๆ ได้ฟังกันครับ
เทวาศรมตั้งอยู่ริมทะเลเขาหลักในโซนที่เงียบสงบ มีธารน้ำธรรมชาติที่ไหลลงทะเลขนาบอยู่ด้านหนึ่ง ซึ่งในช่วงน้ำขึ้นจะกลายเป็น lagoon ที่ดูสวยงาม ทำให้วิวจากห้องพักของเทวาศรมแตกต่างจากรีสอร์ทส่วนใหญ่ของเขาหลัก
แทบทุกคนที่มาเทวาศรมจะพูดเป็นเสียงเดียวกันว่างานออกแบบของเทวาศรมนั้นใส่ใจในรายละเอียดมาก งานสถาปัตยกรรม, การเลือกใช้โทนสี, วัสดุ ดูเข้ากันอย่างลงตัวภายใต้คอนเซ็ปที่ต่อเนื่องในทุกๆ จุดของรีสอร์ท … มีการหยิบเอาศิลปะท้องถิ่นมาปรุงด้วยความทันสมัยได้อย่างชาญฉลาด ทำให้เทวาศรมเป็นรีสอร์ทที่ดูสวยคลาสสิค มีชั้นเชิงด้านการออกแบบที่ผสานกลิ่นอายผู้ดีแทรกอยู่ในทุกส่วน
Beach Front Pool Villa เป็นห้องพักแบบวิลล่าพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัวที่ตั้งอยู่หน้าหาด เรียกได้ว่าเดินไม่กี่ก้าวก็ถึงทะเลแล้ว ขนาดห้องพักกว้างขวางจัดวางฟังก์ชันยกเป็นสัดส่วน คือห้องนั่งเล่นและทำงาน, ห้องนอน, ห้องน้ำ และสระว่ายน้ำ วัสดุที่ใช้ตกแต่งภายในแทรกเรื่องราวของตะโกลาซึ่งเป็นอารยธรรมท้องถิ่นดั้งเดิมเอาไว้ ผสมผสานกับอารมณ์นักเดินทางยุคบุกเบิก
Devasom Sky Villa เป็นห้องพักขนาดใหญ่แบบ 2 ห้องนอนมาพร้อมพื้นที่ใช้สอยกว่า 400 ตร.ม. ตั้งอยู่ชั้นบนสุดของอาคารที่หันหน้าเข้าหาทะเล สามารถมองเห็นวิวแบบพาโนรามาได้เต็มอารมณ์แต่ยังคงไว้ซึ่งความเป็นส่วนตัว … ภายในบริเวณห้องประกอบด้วยสระว่ายน้ำยาว 17+ ม. อยู่ติดกับศาลานั่งพักผ่อนชมวิว และถัดมาเป็น dining room ที่มีโต๊ะทานอาหารอย่างหรูและบาร์พร้อมมากสำหรับการจัด party เล็กๆ ของครอบครัวหรือกลุ่มเพื่อน
พูดได้เต็มปากเลยว่าอาหารคืออีกจุดเด่นของเทวาศรม ทั้งในแง่ของรสชาติและ presentation … อาหารเช้ามีความหลากหลาย วัตถุดิบดี มีเมนูเสริมให้เลือกนอกจาก buffet line ที่ตอนนี้ปรับใหม่แบบ new normal โดยทำแยกเป็นชุดเล็กๆ ไว้ให้หยิบได้สะดวกและอลดการสัมผัสร่วมกัน
ในส่วนของอาหารมื้อเที่ยงและมื้อค่ำเทวาศรมก็ทำได้ดีไม่แพ้อาหารเช้า โดยอาหารไทยจะเสิร์ฟที่ห้องอาหารตะโกลาที่เดียวกับอาหารเช้า ส่วนอาหารตะวันตกจะเสิร์ฟที่ห้องอาหาร Devasom Beach Grill ริมทะเลติดสระว่ายน้ำ ซึ่งโดยส่วนตัวชอบเมนู western มากกว่าเล็กน้อยโดยเฉพาะสลัด Citrus ซึ่งเป็น signature ของทางเทวาศรม .. ทั้งนี้ใ่นส่วนของอาหารไทยจะผสมผสานวิธีการเสิร์ฟแบบตะวันตก เช่นมีขนมเรียกน้ำย่อย แต่ใช้ขนมไทยแทนขนมปังแบบยุโรปเป็นต้น
มาพักครั้งนี้ได้มีโอกาสลอง afternoon tea ด้วย ซึ่งสามารถขอเสิร์ฟที่วิลล่าหรือที่ library ก็ได้ โดยผมเลือกอย่างหลัง เมนูขนมและของว่างแบบไทยถูกเสิร์ฟบนชั้นวางแบบฝรั่ง … สำหรับรสชาติของขนมหวานส่วนตัวแล้วคิดว่าไม่โดดเด่นนักเมื่อเทียบกับอาหารจานหลักอื่นๆ
สปาของเทวาศรมออกแบบได้สวยงาม ให้บรรยกาศของการผ่อนคลาย ปลอดโปร่ง … ทักษะการนวดของพนักงานดีมาก ในฐานะคนที่เคยทำงานสปาชั้นนำมาก่อนและรู้ความแตกต่างดีระหว่างการนวดแบบมาตรฐานกับการนวดแบบเหนือมาตรฐาน เชื่อได้เลยว่าพนักงานนวดที่นี่ผ่านการ train มาอย่างเข้มข้นจริงๆ
ภายในรีสอร์ทมีกิจกรรมหลากหลาย แต่ดูที่จะถูกใจคนไทยก็จะมี พายเรือ kayak ในลากูน, ปั่นจักรยาน หรือคลาสต่างๆ เช่นโยคะ ไปครั้งนี้ให้คุณแฟนซึ่งเป็นครูโยคะได้ไปทดลองร่วมกิจกรรมโยคะตามตารางที่ให้แขกสามารถเข้าร่วมได้ฟรีซึ่งจัดตรงบริเวณโดมติดกับฟิตเนสด้วย
พนักงานให้บริการดี มีความสุภาพ อ่อนน้อม ให้ความช่วยเหลือดี … จะรู้สึกได้ถึงการเว้นระยะกับแขกที่อาจจะดูกึ่งทางการเล็กน้อย อารมณ์เหมือนเราเป็นแขกบ้านแขกเมืองอะไรประมาณนั้น
ยังคงพูดได้เต็มปากเช่นเดิมว่าเทวาศรมคือหนึ่งในรีสอร์ทที่ให้ประสบการณ์พักผ่อนที่ดีลงตัวในด้านความสะดวกสบายและความผ่อนคลาย เหมาะกับการไปทิ้งตัว 3-4 วันกับคนรู้ใจหรือครอบครัว และน่าภูมิใจมากที่เทวาศรมคือการปั้นและบริหารโดยฝีมือคนไทยล้วนๆ … อยากรู้ว่าทำไมรีสอร์ทแห่งนี้ถึงครองใจแขกที่มาพัก คงต้องไปพิสูจน์ด้วยตัวเอง